นวัตกรรมพลิกโลก
- อนาคต 3D Printer จะอยู่บนโต๊ะทำงานของทุกบ้าน
- 3D Printer สร้างทุกอย่างที่คิดออกมาได้
- 3D Printer ลดต้นทุนของผู้ประกอบการในการผลิตชิ้นส่วน
เริ่มจากปัจจุบันนี้ก็ได้มีบริการพิมพ์วัตถุสามมิติตามสั่งเกิดขึ้นมาแล้ว ซึ่งบริการที่ขึ้นชื่อที่สุดก็น่าจะเป็น Shapeways ที่เปิดโอกาสให้สามารถออกแบบวัตถุสามมิติอย่างง่ายได้ด้วยตนเองจากบนหน้าเว็บ สามารถเลือกวัตถุดิบได้ และพิมพ์ออกมาเป็นโมเดลให้สามารถเก็บเป็นที่ระลึก หรือจะเปิดเป็นร้านค้าออนไลน์ก็สามารถทำได้
แต่ว่าความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจยิ่งกว่าก็คือ ในอนาคตนั้น อาจวิ่งไปที่ร้านคอมพิวเตอร์แถวบ้าน แล้วซื้อเครื่องพิมพ์สามมิติมาใช้งานได้เหมือนกับพริ้นเตอร์ทั่วไป โดยในตอนนี้ก็ได้มีโครงการประเภท DIY ที่น่าสนใจเกิดขึ้นมากมาย ยกตัวอย่างเช่น RepRap โครงการเครื่องพิมพ์สามมิติเสรีที่เปิดโอกาสให้นักพัฒนานำไปต่อยอดได้ โดยนอกจากเราจะสามารถซื้อหามาใช้งานได้จริงแล้ว ในเว็บไซต์ก็ยังมีเว็บบอร์ดไว้สำหรับพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นอีกด้วย และอีกแห่งหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อยคือ MakerBot Industries ผู้ผลิต The MakerBot Replicator เครื่องพิมพ์สามมิติสำเร็จรูปตามบ้านชนิดพร้อมใช้งาน และบริการ Thingiverse ชุมชนออนไลน์ที่เราสามารถเข้าไปชมผลงานโมเดลสามมิติของคนอื่น รวมทั้งเข้าไปดาวน์โหลดพิมพ์เขียวต่างๆ มาใช้งานได้ฟรี
อนาคตของ 3D Printing
3D Printing เปิดโอกาสให้เราทำสิ่งที่เราไม่เคยทำได้มาก่อน รวมทั้งอาจก่อให้เกิดผลกระทบตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยนักวิเคราะห์หลายรายชี้ว่าผลกระทบที่ตามมานั้นอาจมากมายไม่ต่างจากสิ่งที่เครื่องจักรไอน้ำเคยก่อให้เกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรม หรือไมโครชิพก่อให้เกิดการปฏิวัติดิจิตัล แต่ก่อนที่เราจะไปถึงจุดนั้น 3D Printing ยังคงต้องเผชิญกับอุปสรรคหลายอย่างด้วยกัน
เริ่มจาก ราคาซึ่งยังนับว่าแพงมาก โดยเฉพาะเครื่องพิมพ์สามมิติคุณภาพสูงสำหรับใช้ในงานอุตสาหกรรม ส่วนเครื่องพิมพ์ที่สามารถใช้ตามบ้านได้นั้นก็ยังได้งานที่ค่อนข้างดิบ ทำงานช้า รองรับวัตถุดิบได้้น้อย และอาจยังไม่สามารถสร้างวัตถุที่มีความซับซ้อนพอจะสามารถนำมาใช้งานอะไรจริงจงั แต่ข้อจำกัดดังกล่าวก็อาจถูกทำลายลงได้ เช่นราคาขายที่มีแนวโน้มถูกลงเรื่อยๆ เนื่องจากเริ่มเป็นธุรกิจที่มีผู้คนให้ความสนใจ เกิดผู้เล่นรายใหม่มากมาย และการที่โครงการเครื่องพิมพ์สามมิติหลายรายถูกปล่อยพัฒนาอย่างเสรีก็ทำให้เกิดชุมชุนผู้ใช้เพิ่มขึ้น ส่งผลดีให้เคยไอเดียและแนวคิดใหม่ที่สามารถนำไปต่อยอดของเดิม
หากเราสามารถก้าวข้ามข้อจำกัดตรงนี้ไปได้ อนาคตของ 3D Printing ก็นับว่าสดใส ลองคิดดูว่าจะดีแค่ไหนหากว่าผู้ผลิตสามารถลดต้นทุนการผลิตชิ้นส่วนประกอบต่างๆ ลงไปได้ด้วยการพิมพ์ออกมาใช้งานเองโดยไม่ต้องว่าจ้างโรงงานจากต่างแดน รวมทั้งช่วยลดความเสี่ยงสำหรับผู้ประกอบการรายย่อยที่เพิ่งเริ่มกิจการ สามารถลองผิดลองถูกผลิตแบบสิ่งของตามที่ลูกค้าสั่งได้ เมื่อทุกอย่างลงตัวก็ค่อยเริ่มเข้าสู่กระบวนการผลิตเป็นจำนวนมากแบบดั้งเดิมต่อไป ส่วนผู้บริโภคเองต่อไปก็อาจไม่ต้องเสียเวลาเดินทางเพื่อซื้อของใช้เล็กๆ น้อยๆ สามารถซ่อมแซมอุปกรณ์ที่ต้องใช้ชิ้นส่วนต่างๆ ได้เอง เพียงแค่ดาวน์โหลดพิมพ์เขียวลงเครื่อง แล้วก็ “พิมพ์” ออกมา
ดังนั้นคำว่า “ปฏิวัติ” อาจอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
นวัตกรรมพลิกโลก
- อนาคต 3D Printer จะอยู่บนโต๊ะทำงานของทุกบ้าน
- 3D Printer สร้างทุกอย่างที่คิดออกมาได้
- 3D Printer ลดต้นทุนของผู้ประกอบการในการผลิตชิ้นส่วน
เริ่มจากปัจจุบันนี้ก็ได้มีบริการพิมพ์วัตถุสามมิติตามสั่งเกิดขึ้นมาแล้ว ซึ่งบริการที่ขึ้นชื่อที่สุดก็น่าจะเป็น Shapeways ที่เปิดโอกาสให้สามารถออกแบบวัตถุสามมิติอย่างง่ายได้ด้วยตนเองจากบนหน้าเว็บ สามารถเลือกวัตถุดิบได้ และพิมพ์ออกมาเป็นโมเดลให้สามารถเก็บเป็นที่ระลึก หรือจะเปิดเป็นร้านค้าออนไลน์ก็สามารถทำได้

แต่ว่าความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจยิ่งกว่าก็คือ ในอนาคตนั้น อาจวิ่งไปที่ร้านคอมพิวเตอร์แถวบ้าน แล้วซื้อเครื่องพิมพ์สามมิติมาใช้งานได้เหมือนกับพริ้นเตอร์ทั่วไป โดยในตอนนี้ก็ได้มีโครงการประเภท DIY ที่น่าสนใจเกิดขึ้นมากมาย ยกตัวอย่างเช่น RepRap โครงการเครื่องพิมพ์สามมิติเสรีที่เปิดโอกาสให้นักพัฒนานำไปต่อยอดได้ โดยนอกจากเราจะสามารถซื้อหามาใช้งานได้จริงแล้ว ในเว็บไซต์ก็ยังมีเว็บบอร์ดไว้สำหรับพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นอีกด้วย และอีกแห่งหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อยคือ MakerBot Industries ผู้ผลิต The MakerBot Replicator เครื่องพิมพ์สามมิติสำเร็จรูปตามบ้านชนิดพร้อมใช้งาน และบริการ Thingiverse ชุมชนออนไลน์ที่เราสามารถเข้าไปชมผลงานโมเดลสามมิติของคนอื่น รวมทั้งเข้าไปดาวน์โหลดพิมพ์เขียวต่างๆ มาใช้งานได้ฟรี

อนาคตของ 3D Printing
3D Printing เปิดโอกาสให้เราทำสิ่งที่เราไม่เคยทำได้มาก่อน รวมทั้งอาจก่อให้เกิดผลกระทบตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยนักวิเคราะห์หลายรายชี้ว่าผลกระทบที่ตามมานั้นอาจมากมายไม่ต่างจากสิ่งที่เครื่องจักรไอน้ำเคยก่อให้เกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรม หรือไมโครชิพก่อให้เกิดการปฏิวัติดิจิตัล แต่ก่อนที่เราจะไปถึงจุดนั้น 3D Printing ยังคงต้องเผชิญกับอุปสรรคหลายอย่างด้วยกัน
เริ่มจาก ราคาซึ่งยังนับว่าแพงมาก โดยเฉพาะเครื่องพิมพ์สามมิติคุณภาพสูงสำหรับใช้ในงานอุตสาหกรรม ส่วนเครื่องพิมพ์ที่สามารถใช้ตามบ้านได้นั้นก็ยังได้งานที่ค่อนข้างดิบ ทำงานช้า รองรับวัตถุดิบได้้น้อย และอาจยังไม่สามารถสร้างวัตถุที่มีความซับซ้อนพอจะสามารถนำมาใช้งานอะไรจริงจงั แต่ข้อจำกัดดังกล่าวก็อาจถูกทำลายลงได้ เช่นราคาขายที่มีแนวโน้มถูกลงเรื่อยๆ เนื่องจากเริ่มเป็นธุรกิจที่มีผู้คนให้ความสนใจ เกิดผู้เล่นรายใหม่มากมาย และการที่โครงการเครื่องพิมพ์สามมิติหลายรายถูกปล่อยพัฒนาอย่างเสรีก็ทำให้เกิดชุมชุนผู้ใช้เพิ่มขึ้น ส่งผลดีให้เคยไอเดียและแนวคิดใหม่ที่สามารถนำไปต่อยอดของเดิม
หากเราสามารถก้าวข้ามข้อจำกัดตรงนี้ไปได้ อนาคตของ 3D Printing ก็นับว่าสดใส ลองคิดดูว่าจะดีแค่ไหนหากว่าผู้ผลิตสามารถลดต้นทุนการผลิตชิ้นส่วนประกอบต่างๆ ลงไปได้ด้วยการพิมพ์ออกมาใช้งานเองโดยไม่ต้องว่าจ้างโรงงานจากต่างแดน รวมทั้งช่วยลดความเสี่ยงสำหรับผู้ประกอบการรายย่อยที่เพิ่งเริ่มกิจการ สามารถลองผิดลองถูกผลิตแบบสิ่งของตามที่ลูกค้าสั่งได้ เมื่อทุกอย่างลงตัวก็ค่อยเริ่มเข้าสู่กระบวนการผลิตเป็นจำนวนมากแบบดั้งเดิมต่อไป ส่วนผู้บริโภคเองต่อไปก็อาจไม่ต้องเสียเวลาเดินทางเพื่อซื้อของใช้เล็กๆ น้อยๆ สามารถซ่อมแซมอุปกรณ์ที่ต้องใช้ชิ้นส่วนต่างๆ ได้เอง เพียงแค่ดาวน์โหลดพิมพ์เขียวลงเครื่อง แล้วก็ “พิมพ์” ออกมา
ดังนั้นคำว่า “ปฏิวัติ” อาจอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น